|
|
|
|
|
เจาะกลยุทธ์ขยายธุรกิจรับเออีซี |
|
กระแสประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)ที่จะมีการเปิดเสรีเต็มรูปแบบในปี 2558 สิ่งที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้คือความเคลื่อนการลงทุนในภูมิภาคซึ่งมีความคึกคักขึ้นเป็นลำดับ ประเทศที่ได้รับความสนใจมากที่สุดได้แก่พม่า รองลงมากัมพูชา ด้วยเหตุผลที่ว่าทั้งสองประเทศเริ่มเปิดประเทศมากขึ้น ยังคงมีทรัพยากรธรรมชาติสำหรับใช้เป็นแหล่งวัตถุดิบจำนวนมาก มีพื้นที่ว่างเปล่าสำหรับปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบ อัตราค่าจ้างแรงงานในประเทศยังต่ำ ได้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรส่งออกไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาและยุโรป omega seamaster replica ด้วยปัจจัยเอื้อดังกล่าวทุนไทยรวมทั้งทุนชาติต่างๆ จึงหลั่งไหลเข้าไป ซึ่งวิธีการของแต่ละบริษัทมีความแตกต่างกันไป ส่วนใหญ่แล้วเข้าไปในเชิงธุรกิจคือส่งเสริมเพาะปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ ตั้งโรงงานผลิตแปรรูปสินค้าเกษตรส่งออก ตั้งโรงงานผลิตสินค้าอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก สำหรับการเข้าไปลงทุนในประเทศกัมพูชา ของบริษัท เพาเวอร์ยูนิตี้ จำกัด เป็นอีกบริษัทที่มีรูปแบบแตกต่างจากบริษัทอื่นๆ "รุ่งโรจน์ เหมันต์สุทธิกุล" ประธานบริษัท เพาเวอร์ยูนิตี้ จำกัด เล่าให้ฟังว่าได้ตัดสินใจเข้าไปลงทุนในประเทศกัมพูชาเมื่อเดือนตุลาคม 2554 ตามคำเชิญชวนของนักธุรกิจกัมพูชา ซึ่งต่อมาเขาคือผู้ร่วมทุน บริษัท เพาเวอร์ ยูนิตี้ แคมโบเดีย อินเวสเม้นท์ จำกัด สำหรับธุรกิจที่ไปลงทุนเป็นธุรกิจเกษตรและเกษตรแปรรูปคือส่งเสริมปลูกมันสำปะหลังและแปรรูปมันสำปะหลังเส้น "บริษัท เพาเวอร์ยูนิตี้ จำกัด เป็นบริษัทดำเนินธุรกิจส่งออกสินค้าเกษตร ควบคู่กับการเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดสินค้าเกษตรโดยฉพาะจีนให้กับหน่วยงานของรัฐและเอกชนไทยหลายแห่งด้วยกัน เพราะเรามีความเชี่ยวชาญตลาดจีนเป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นในด้านตลาดสินค้าเกษตรเรามีตลาดจีนเป็นแหล่งรองรับจำนวนมหาศาล จึงได้ตัดสินใจเข้าไปลงทุนด้านการปลูกและแปรรูปในกัมพูชา" อย่างไรก็ดีเขากล่าวว่าประเทศกัมพูชายอมรับว่าเป็นประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์มาก ภาคการเกษตรมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เพราะมีสัดส่วนถึง70% แต่เกษตรกรส่วนใหญ่ยังป็นรายเล็กมีฐานะยากจน การทำการเกษตรยังเพาะปลูกแบบดั้งเดิมคือเพื่อบริโภคในครัวเรือนเป็นหลัก จึงเป็นอุปสรรคต่อการผลิตและการทำตลาด ดังนั้นการเข้าไปทำธุรกิจในกัมพูชาของบริษัท เพาเวอร์ยูนิตี้ฯ จึงไม่มุ่งเน้นเชิงธุรกิจอย่างเดียว แต่บริษัทจะเข้าไปช่วยพัฒนาภาคการเกษตร ช่วยยกระดับฐานะความเป็นอยู่ของเกษตรกรในกัมพูชาให้มีความกินดีอยู่ดีขึ้น หรือที่เรียกว่าสังคมเกษตรโลกที่ 3 คือเกษตรกรผู้ผลิตและผู้ใช้ภาคอุตสาหกรรมอยู่ร่วมกันอย่างเป็นธรรม รูปแบบดำเนินธุรกิจคือ บริษัทจะเข้าไปส่งเสริมเกษตรกรกัมพูชาปลูกมันสำปะหลัง นำเทคโนโลยี วิชาการ เข้าไปช่วยเหลือให้ความรู้เกษตรกร ให้สามารถเพิ่มผลผลิตต่อไร่ได้สูงขึ้น จากการศึกษาพื้นที่เพาะปลูกมีโอกาสขยายได้ 1,500% ใน10 ปี ปริมาณผลผลิตขยายได้ 1,300% ใน10 ปี หลังจากนั้นบริษัทจะรับซื้อหัวมันสดในราคาบวกกำไรให้กับเกษตรกร นำมาแปรรูปเป็นมันเส้นป้อนตลาดจีนเป็นหลัก เบื้องต้นบริษัทได้ใช้เงินลงทุนประมาณ150 ล้านบาท เพื่อสร้างลานมันเส้น 5 แห่งพื้นที่รวมกันร่วม 500ไ ร่ ซื้อรถแทรกเตอร์สำหรับไถแปลงปลูกมันสำปะหลัง นอกจากนี้บริษัทยังได้ดำเนินการส่งเสริมสวัสดิการแก่เกษตรกร โดยการจัดหาอาชีพเสริม โดยนำไก่พื้นเมืองจากประเทศไทยไปให้เกษตรกรกัมพูชาเลี้ยง จัดทำมินิมาร์ต เพราะเกษตรกรกัมพูชาส่วนใหญ่อยู่ห่างไกลแหล่งซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค การจัดทำมินิมาร์ตในชุมชนเป็นการช่วยให้พวกเขาได้เข้าถึงแหล่งซื้อสินค้า เบื้องต้นบริษัทจะทำบัตรเครดิตให้เพื่อนำสินค้าไปใช้ก่อน เมื่อถึงฤดูขุดหัวมันเกษตรกรก็นำหัวมันมาจำหน่ายกับบริษัทแล้วจึงหักลบกลบหนี้กันไป หลายคนอาจมองต่างมุมว่าทำไมเป็นนักธุรกิจคนไทยจึงไปพัฒนาประเทศกัมพูชา "รุ่งโรจน์" อธิบายเหตุผลว่าเพราะอนาคตโลกมีความเป็นเสรีมากขึ้น เราจึงขีดเส้นจำกัดเฉพาะประเทศไทยไม่ได้ อีก 3 ปีข้างหน้าหลังจากเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน กำลังซื้อสินค้าในภูมิภาคคือประชากร 600 ล้านคน ไม่ใช่ 60 ล้านคน วันนี้สินค้าของ เพาเวอร์ ยูนิตี้ คอมโบเดีย อินเวสเม้นท์ ตลาดหลักคือจีนแต่เราพร้อมจะเคลื่อนย้ายตลาดได้ทุกเมื่อ เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องมีฐานผลิตที่มั่นคงก่อน รูปแบบธุรกิจ ที่บริษัท เพาเวอร์ยูนิตี้ฯ ลงทุนในกัมพูชา จึงเป็นวิธีการที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกันไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจไทย เกษตรกรไทย ประเทศไทย หรือนักธุรกิจกัมพูชา เกษตรกรกัมพูชา และประเทศกัมพูชา แหล่งที่มา:จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,719 4-7 มีนาคม พ.ศ. 2555
Best Replica Watches
|
|
<< ย้อนกลับ >> |
|
|
|
|
|