บีโอไอเตรียมเข็นแพ็กเกจส่งเสริมลงทุนเอสเอ็มอีรอบใหม่ คงสิทธิประโยชน์สูงสุดเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร เว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปีไม่จำกัดวงเงิน และใช้เครื่องจักรเก่าได้ คุมเข้มกันรายใหญ่สวมรอยใช้สิทธิ หน่วย BUILD เล็งโปรโมตแพ็กเกจใหม่ในงานซับคอน รับที่ผ่านมาเอสเอ็มอีใช้สิทธิน้อย 
 แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า บีโอไอกำลังเตรียมที่จะออกนโยบายส่งเสริมการลงทุนแก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) รอบใหม่อีกครั้ง เพื่อกระตุ้นให้เอสเอ็มอีไทยเกิดการลงทุน หลังจากปี 2553-2554 ได้ออกแพ็กเกจส่งเสริมเอสเอ็มอีไปแล้ว โดยมียอดยื่นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนผ่านแพ็กเกจดังกล่าวนับตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2553 ถึง 31 ธันวาคม 2554 ทั้งหมด 685 โครงการ รวมมูลค่าการลงทุน 26,587 ล้านบาท
 สำหรับแพ็กเกจส่งเสริมการลงทุนเอสเอ็มอีรอบใหม่นั้น เบื้องต้นยังมีการพิจารณาให้คงสิทธิประโยชน์เหมือนเดิม คือ ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรไม่ว่าจะลงทุนในเขตใดก็ตาม และได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นระยะเวลา 8 ปี ทุกเขต โดยไม่กำหนดสัดส่วนการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดเงื่อนไขพิเศษสำหรับเอสเอ็มอีโดยเฉพาะ คือ อนุญาตให้นำเครื่องจักรใช้แล้วในประเทศมาใช้ในโครงการขอรับการส่งเสริมได้ แต่ต้องมีการลงทุนเครื่องจักรใหม่ร่วมด้วย ส่วนโครงการที่ขอรับการส่งเสริมแต่ละโครงการจะต้องมีขนาดการลงทุนไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียนไม่เกิน 20 ล้านบาท และเมื่อรวมทั้งกิจการแล้วจะต้องมีสินทรัพย์ถาวรสุทธิไม่เกิน 200 ล้านบาท 
 "ในแง่ของสิทธิประโยชน์ในแพ็กเกจส่งเสริมเอสเอ็มอีที่จะออกใหม่นี้คงไม่มีอะไรต่างจากเดิม แต่อาจมีเงื่อนไขที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้เป็นแพ็กเกจที่นักลงทุนซึ่งเป็นเอสเอ็มอีจริงๆ เป็นผู้เข้ามาใช้ประโยชน์ เพราะที่ผ่านมายอมรับว่ามีบริษัทขนาดใหญ่บางรายเปิดบริษัทลูก เพื่อเข้ามาใช้สิทธิตรงนี้"
 แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า ในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบอร์ดบีโอไอ ที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน ในวันที่ 28 มีนาคม 2555 ซึ่งเป็นการประชุมบอร์ดบีโอไอวาระแรกของปี 2555 คงยังไม่สามารถเสนอแพ็กเกจดังกล่าวเข้าเป็นวาระการประชุมให้บอร์ดพิจารณาได้ทัน แต่คาดว่าน่าจะนำเสนอได้ภายในกลางปีนี้ 
 นายนฤชา ฤชุพันธ์ ผู้อำนวยการหน่วยพัฒนาการเชื่อมโยงอุตสาหกรรม หรือหน่วย BUILD ของบีโอไอ กล่าวว่า หากที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บอร์ดบีโอไอ มีการพิจารณาและประกาศใช้แพ็กเกจส่งเสริมการลงทุนเอสเอ็มอีรอบใหม่ก็จะเร่งประชาสัมพันธ์ให้เอสเอ็มอีได้รับทราบและเข้ามาใช้สิทธิประโยชน์นี้ทันที เพราะที่ผ่านมาเอสเอ็มอีใช้สิทธิจากแพ็กเกจนี้ค่อนข้างน้อย
 สำหรับการโรดโชว์เพื่อชักจูงการลงทุนที่ประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 26-27 มีนาคม 2555 นำโดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีนั้น ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในงานสัมมนา "Unbeatable Thailand Unparalleled Opportunities: Business Environment and Investment Policies" มีนักธุรกิจเกาหลีใต้เข้าร่วมงานถึง 520 คน สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 400 คน โดยกลุ่มนักธุรกิจที่ลงทุนในประเทศไทยอยู่แล้ว เช่น ซัมซุง และ แอลจี ยังคงยืนยันที่จะขยายการลงทุนในไทยต่อไป นอกจากนี้ ยังมีหลายบริษัทที่สนใจลงทุนในกิจการผลิตไฟฟ้าจากขยะ กิจการผลิตแผงโซลาร์เซลล์ กิจการแม่พิมพ์และเครื่องจักร ดังนั้น จึงยืนยันว่าในช่วง 1-2 ปีจากนี้ กลุ่มทุนจากเกาหลีใต้จะมีการขยายการลงทุนในประเทศไทย มูลค่าไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน  
 ด้านนางหิรัญญา สุจินัย ที่ปรึกษาด้านการลงทุน บีโอไอ เปิดเผยถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับมาตรการบรรเทาผลกระทบของผู้ประกอบการที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยเมื่อปลายปี 2554 ว่า จากที่บีโอไอได้ออกมาตรการยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรที่นำมาทดแทนเครื่องจักรที่เสียหายจากอุทกภัยให้กับโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอนั้น ล่าสุด ผู้ประกอบการได้ทยอยนำเข้าเครื่องจักรใหม่ภายใต้มาตรการดังกล่าวแล้วรวมมูลค่ากว่า 80,000 ล้านบาท และเริ่มกลับมาเดินเครื่องผลิตประมาณ 50% จากจำนวนโครงการที่ได้รับผลกระทบ 1,700 โครงการ จาก 400 บริษัท

แหล่งที่มา: ฐานเศรษฐกิจ